top of page

Distuptive  Hybridization 4.0 (คุณมนัสศิริ เผือกสกนธ์)

ผมเป็นเด็กช่างคิด ไม่ขยัน (ตรงๆ คือขี้เกียจ ) ผลการเรียนดี มาตลอด และก็แปลกที่เป็นคนเดียวในกลุ่ม Top 4 ของห้องที่ถูกโดนทำโทษ โดนตีมาตลอด ขาดก็เพียงไม่โดนตุ๋ยเท่านั้น

การเป็นเด็กช่างคิดของผมนั้นทำให้ผมนึกถึงความเป็นกระเทย  การผสมพันธ์ของไส้เดือนที่มี 2 เพศในตัวเดียวกัน ว่าจะมีความสุขแบบใด พืชก็เช่นกัน เห็นตั้งแต่พวกชั้นต่ำขยายพันธ์แบบปฐมภูมิพื้นๆ ก็เจริญเผยแพร่ลูกหลานไปทั่วโลก  จนถึงการแบ่งเพศเป็น ผัว-เมีย แยกชัดเจนต้องผสมข้ามระหว่างเกสรตัวผู้-ตัวเมีย

จากวันนั้นมาอีกห้าสิบกว่าปี ถึงวัยใกล้เกษียณ คำว่ากระเทยสมัยผมเด็กๆ ได้พัฒนา มาสู่ฐานะเพศมากมาย มีอัตราผสมระหว่างความเป็นหญิง:ชาย ต่างดีกรีกัน อาทิ ตุ๊ด แต๋ว ทอม ดี้ ไบ ไตร (คือรวมคน สัตว์ สิ่งของ) รวมทั้งระบาดไปถึงสัตว์เชื้อพันธุ์ต่างๆด้วย เช่น เก้ง กวาง บ่าง ชะนี เหล่านี้เองที่ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นการผสมผสาน แบบ “Hybrid” ที่มีทั้งมั่วซั่ว และ ถูกออกแบบ คัดเลือกมาอย่างดี

คิดสดกับ Hybrid 

อยู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่า “ภาษา” ของคนเราก็มีการ Hybrid กับเขามานานแล้ว ตั้งแต่ระดับ

 

-ปฐมภูมิ  เป็น Hybrid ระหว่างเสียงของมนุษย์ที่เกิดจากสัญชาตญาณ ความรู้สึก พฤติกรรม ธรรมชาติ อันเป็นพื้นฐานที่เด็กทั่วโลก เป็นแบบเดียวกัน

ยกตัวอย่าง

ซึ่งถ้าเอาแบบน่าเบื่อหน่อย ก็ให้นึกถึงตอนนั่งเรียน หลักภาษาตอนเด็กๆ พวกคำสมาส คำสนธิ ฯลฯ ซึ่งนั่งเรียนไป ตาปรือไป เพราะวุ่นวาย หยุมหยิม ปวดกบาล

ยกตัวอย่าง

นอกจากนี้ การ Hybrid ของภาษาก็ยังถูกพัฒนาแบบ Disruption  Innovation คือ มีความสร้างสรรค์ ลักษณะต่างๆ เช่น สลับตำแหน่งคำ กลายเป็น

ของไทยนั้นการผสมผสาน สมาส สนธิ ภาษาอุบัติ ภาษาHybrid มักจะมาจากรากเหง้า ภาษาไทยเอง ภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต อินเดีย เขมร จีน ฝรั่ง ญี่ปุ่น ทั้งนี้ยังไม่ขอกล่าวถึง ภาษาวิบัติ ซึ่งถือเป็น Fragment  Disruption  วันนี้ขอข้ามไปถึงการสมาส สนธิ ประยุทธ์ คำต่างๆ ในภาษาอังกฤษ เช่น Dysfunction , Homosexual , Television , Automotive  ,etc. และขอจบบทความตอนแรกเท่านี้ก่อนครับ

สำหรับข้อเขียนวันนี้นั้น ถ้าจะลองทำให้เป็นโมเดลของภาษาแบบ Hybridization ออกมา ก็น่าจะเป็นแบบนี้  

bottom of page